05 October 2023


รู้หรือเปล่าว่าการเลือกวัสดุก่อสร้างบ้านก็ต้องอัพเดทเทรนด์ใหม่ๆ ให้ทันยุคทันสมัยด้วยเสมอ ยิ่งเกี่ยวข้องกับความเป็นอยู่อาศัยในบ้านด้วยยิ่งสำคัญ เดี๋ยวนี้เราเริ่มมักจะได้ยินเทรนด์การสร้างที่อยู่อาศัยอย่างยั่งยืนที่เรียกว่า ‘Well-Being’ ซึ่งเป็นแนวคิดที่ไม่ใช่แค่หมายถึงคุณภาพความเป็นอยู่อย่างเดียว แต่ยังหมายรวมไปถึงคุณภาพของสิ่งแวดล้อมอีกด้วย นำไปสู่การเลือกสรรผลิตภัณฑ์ หรือ นวัตกรรมวัสดุก่อสร้างที่มอบประสบการณ์แบบนี้ให้ได้ ถ้าหากเราอัพเดทเรื่องราวเหล่านี้อยู่เป็นประจำ เช่นตัวอย่างดังกล่าว ก็คงได้รับการตอบโจทย์กับไลฟ์สไตล์การอยู่อาศัย แต่กลับกันถ้าเราไม่ใส่ใจเท่าไหร่ เป็นเพียงแค่คนอยากมีบ้านธรรมดาๆ ทำให้การเลือกวัสดุก่อสร้างที่อยู่อาศัยแบบส่งๆ โดยขาดความรู้ ซึ่งจุดนี้เองอาจจะนำไปสู่ ‘ราคาที่คุณต้องจ่าย’ อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้!



ความทนทานต่ำ ทั้งต่อสภาพอากาศ หรือ การสึกกร่อน ทั้งหมดนี้จะทำให้บ้านพังไวขึ้น
วัสดุหรือโครงสร้างที่ไม่มีความทนทานในระดับมาตรฐานเป็นปัจจัยที่สำคัญที่อาจทำให้บ้านหรืออาคารพังไวขึ้น ไม่ว่าจะเป็นความเสี่ยงต่อความเสียหายจากสภาพแวดล้อมรวมไปถึงสภาพอากาศที่รุนแรง การสึกกร่อนเสื่อมสภาพ การทรุดตัวลงของวัสดุ หรือ ความเสียหายอื่นๆ ที่เกิดขึ้นได้ทั้งภายนอก-ภายใน ของตัวบ้าน ทำให้ต้องได้รับการซ่อมบำรุงที่จุกจิกกว่าเดิม



ปัญหาโครงสร้าง เรื่องใหญ่ชวนน่าปวดหัว
รากฐานความแข็งแรงของบ้านที่นับได้ว่าเป็นเรื่องใหญ่พอตัวเวลาเกิดปัญหา หากมีส่วนใดที่ชำรุดขึ้นมา นั้นอาจหมายถึงความเสียหายของบ้านแทบจะทั้งหลัง เสี่ยงทั้งชีวิตทั้งทรัพย์สิน ยิ่งเป็นการเลือกใช้วัสดุที่ไม่ได้คุณภาพด้วยแล้วการรับมือกับสิ่งที่เกิดขึ้นก็ยิ่งยากตามไปด้วยเช่นกัน



ค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาที่อาจจะสูงจนน่าตกใจ
การที่จะต้องเตรียมเงินเอาไว้สำหรับเป็นค่าซ่อมแซมบำรุงรักษาในระดับที่สูง เป็นเรื่องที่เรียกได้ว่าเข้าเนื้อเจ้าของบ้านได้อย่างเห็นชัดที่สุด เพราะ การซ่อมบ้านที่เสียหายจากการเลือกใช้วัสดุคุณภาพต่ำไม่ใช่เรื่องง่าย แผลที่บ้านได้ก็มักเป็นแผลที่ใหญ่กว่าปกติ ดังนั้นไม่ใช่เรื่องแปลกที่คุณอาจจะต้องจ่ายเงินมากมายไปกับการซ่อมอะไรบางอย่างนั้นเอง



ประสิทธิภาพพลังงานต่ำลง บ้านร้อนขึ้น ค่าใช้จ่ายในการใช้พลังงานก็เพิ่มขึ้นตามไปด้วย
การที่บ้านหรืออาคารไม่มีการควบคุมอุณหภูมิและความร้อนอย่างมีประสิทธิ ซึ่งเป็นสาเหตุมาจากวัสดุที่ขาดคุณสมบัติตรงจุดนี้ ทำให้ต้องใช้พลังงานมากขึ้นในการควบคุมความร้อนในปริมาณมากกว่าเดิม เช่น การเปิดแอร์อุณหภูมิต่ำกว่า 25 องศา พร้อมเปิดพัดลมเสริม ส่งผลให้ค่าใช้จ่ายในการใช้พลังงานภายในบ้านเพิ่มขึ้น



เปลี่ยนใจอยากทำใหม่ ต้องรื้อทิ้งตั้งแต่ต้น เสียทั้งเงิน เสียทั้งเวลา
กระบวนการที่เรียกได้ว่าสิ้นเปลืองทั้งเวลา สิ้นเปลืองทั้งงบประมาณ ในวันที่เริ่มตัดสินใจได้ว่าอยากจะมีบ้านที่ดีกว่านี้ จนเลือกที่จะปรับปรุงโดยการ “รื้อ” ทำใหม่ทั้งหมด แน่นอนว่านอกเหนือจากเงินและเวลาที่จะเสียไปแล้ว สมาชิกครอบครัวของคุณอาจจะต้องลำบากในการหาที่พักชั่วคราวไปด้วยนั้นเอง
.
การใส่ใจในการเลือกวัสดุก่อสร้างคุณภาพในระดับมาตรฐาน
เป็นเรื่องที่ไม่ควรถูกปล่อยปละละเลย เมื่อคิดจะสร้างบ้านแล้วต้องอย่าลืมว่า บ้านที่ถูกใส่ใจในการออกแบบมาเพื่อให้ความสวยงามอย่างเดียวก็คงไม่ดีเท่ากับบ้านที่รับความใส่ใจตั้งแต่การเริ่มเลือกวัสดุก่อสร้างที่ใช้ ความสวยงาม ความมั่นคง ไปจนถึงความยั่งยืนในทุกๆ รายละเอียด