12 January 2022

Q-CON คว้าโล่เชิดชูเกียรติฉลากสิ่งแวดล้อม จากสถาบันสิ่งแวดล้อมไทย
หนึ่งในผู้ผลิตคอนกรีตมวลเบาของไทยที่ได้รับฉลากคาร์บอน

          บมจ. ควอลิตี้คอนสตรัคชั่นโปรดัคส์ วางธงธุรกิจขับเคลื่อนสู่เป้าหมายเพื่อความยั่งยืนเป็น โรงงาน “สีเขียว” อย่างสมบูรณ์ในทุกมิติการันตีผลงานผ่านรางวัลมาตรฐานต่างๆ จากหน่วย งานภาครัฐบาลและองค์กรเอกชนต่อเนื่อง ล่าสุดคว้าโล่เชิดชูเกียรติจากสถาบันสิ่งแวดล้อมไทย เพราะได้รับการรับรองผลิตภัณฑ์ฉลากเขียว และฉลากลดคาร์บอน เป็นบริษัทที่ผลิต คอนกรีตมวลเบาในประเทศไทยที่ได้รับฉลากลดคาร์บอน ตั้งเป้าลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก จากกระบวนการในการดําเนินธุรกิจร้อยละ 25 ภายในปี 2573 (เทียบกับปีฐาน 2563)
          นายณรงค์เวทย์ วจนพานิช กรรมการผู้จัดการ บริษัท ควอลิตี้คอนสตรัคชั่นโปรดัคส์ จํากัด (มหาชน) หรือ Q-CON ผู้นําด้านคอนกรีตมวลเบาของไทย ภายใต้แบรนด์ “Q-CON (คิวคอน)” ใน เครือเอสซีจี ที่มีผลิตภัณฑ์ที่ครบวงจร เพื่อจําหน่ายภายในประเทศ และส่งออกขายไปยังต่าง ประเทศ เปิดเผยถึงแนวทางในการดําเนินธุรกิจว่า บริษัทฯ ยังคงนโยบายและมีเป้าหมายการขับ เคลื่อนธุรกิจเพื่อความยั่งยืน ด้วยการนําระบบมาตรฐานการจัดการสิ่งแวดล้อมเข้ามาใช้ในโรงงาน และได้มีการปรับปรุงสภาพแวดล้อมในการทํางานอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้สภาพแวดล้อมในการทํางาน ดีขึ้น ลดผลกระทบที่จะเกิดขึ้นทั้งต่อพนักงานและชุมชนโดยรอบ นอกจากนี้ ยังมีการจัดการผลกระทบต่อผู้มีส่วนได้เสียในห่วงโซ่คุณค่าของธุรกิจ (Value Chain) พัฒนาสินค้าและ Solution เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า ควบคู่ไปกับการใช้หลัก เศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) เพื่อเป็นแนวทางในการใช้ทรัพยากรให้เกิดประโยชน์ สูงสุด ลดการใช้พลังงานและของเสีย อีกทั้งพัฒนาสินค้าให้มีความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น เพื่อเป้าหมายให้เป็นโรงงาน “สีเขียว” อย่างสมบูรณ์ในทุกมิติซึ่งสะท้อนผ่านการได้รับรางวัล มาตรฐานต่างๆจากหน่วยงานภาครัฐบาลและองค์กรเอกชนมาอย่างต่อเนื่องโดยล่าสุด บริษัทฯ ได้ โล่เชิดชูเกียรติ จากสถาบันสิ่งแวดล้อมไทย (TEI :THAILAND ENVIRONMENT INSTITUTE)
พร้อมได้รับการรับรองผลิตภัณฑ์ฉลากเขียวและฉลากคาร์บอนรวมแล้วอีก 4 กลุ่มผลิตภัณฑ์ ดังนี้ ได้แก่
1.กลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการรับรองฉลากเขียว คอนกรีตมวลเบาประเภทไม่เสริมเหล็ก
    - อิฐมวลเบาคิวคอน ชั้นคุณภาพ 4
2. กลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการรับรองฉลากลดคาร์บอน คอนกรีตมวลเบาประเภทไม่เสริมเหล็ก
    - อิฐมวลเบาคิวคอน ชั้นคุณภาพ 2 สามารถลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ 379.11Ton CO2/year
    - อิฐมวลเบาคิวคอน ชั้นคุณภาพ 3 สามารถลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ 440.23Ton CO2/year
    - คอนกรีตมวลเบาประเภทเสริมเหล็ก สามารถลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ 153.18 TonCO2/year
       ซึ่งคิวคอนเป็นผู้ผลิตคอนกรีตมวลเบาในประเทศไทยที่ได้รับการรับรองผลิตภัณฑ์ฉลากลดคาร์บอน
 
           บริษัทฯ ได้กำหนดแผนงานการอนุรักษ์พลังงานและด้านสิ่งแวดล้อมเป็นส่วนหนึ่งของการดำเนิน ธุรกิจ ที่เริ่มตั้งแต่กระบวนการจัดซื้อจัดหาที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมกระบวนการผลิต กระบวนการส่งมอบสินค้าและบริการ ตลอดจนการจัดการกากของเสียอุตสาหกรรม อีกทั้งมีการ กำหนดเป้าหมายลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากกระบวนการในการดำเนินธุรกิจร้อยร้อยละ 25 ภายในปี 2573 (เทียบกับปีฐาน 2563) โดยมีมาตรการจัดการพลังงานมาอย่างต่อเนื่อง อาทิ เช่น โครงการติดตั้ง Solar roof บนหลังคาโรงงาน,โครงการนำไอน้ำเหลือทิ้งจากกระบวนการผลิต กลับมาใช้ใหม่ (Overflow steam ), โครงการซ่อมฟื้นฟู steam Trap รั่ว ,โครงการเปลี่ยนนหลอดไฟในโรงงาน เป็นต้น
          “ผมมองว่าการสร้างแรงจูงใจให้กับพนักงาน และหน่วยงานที่ทำด้วยกัน ได้เห็นความสำคัญ ของสิ่งแวดล้อมเป็นสิ่งที่ทำให้เราภาคภูมิใจกับรางวัลในวันนี้ เราอาจจะได้ยินเรื่องโลกร้อนมา มากแล้ว แต่สิ่งที่เราจะทำได้ คือ การสร้างจิตสำนึกให้กับพนักงาน หน่วยงานต่างๆ และบริษัทอื่นๆ ในธุรกิจเดียวกัน ซึ่งไม่ว่าจะได้ใบรับรอง ได้รางวัล หรือไม่ได้ ไม่ว่าจะขายได้ราคา หรือไม่ได้ราคา ผมคิดว่าเป็นเรื่องที่ตามมาทีหลัง แต่สิ่งที่เกิดขึ้นแน่นอน คือ การตระหนักว่าเราได้ทำเพื่อโลกของ เรา สิ่งแวดล้อมของเราแล้ว ในขั้นตอนที่ทาง Q-CON ได้ดำเนินการขอยื่นฉลากต่างๆ ทีมงาน พนักงานนั้นได้เรียนรู้และซึมซับสิ่งต่างๆ เหล่านั้นมากมายจนออกมาเป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้น ที่ทำให้ Q-CONได้รับรางวัลในวันนี้ แล้วสิ่งเหล่านี้ จะค่อยๆ ขยายออกไปในวงกว้างมากขึ้นเรื่อย ๆ ในผู้ ประกอบการอื่น ๆ ในประเทศเรา เพื่อให้โลกของเราน่าอยู่ ซึ่งหลักจากที่ทางบริษัทฯ ตั้งใจทำเพื่อ สิ่งแวดล้อม และมีหน่วยงานมารับรองแล้วว่า สิ่งนี้คือผลิตภัณฑ์ที่ดูแลสิ่งแวดล้อม ดูแลสังคม จริง ”
          นายณรงเวทย์ กล่าว นายณรงค์เวทย์ ยังกล่าวย้ำถึงนโยบายและเป้าหมายการจัดการด้านความยั่งยืน ซึ่งผล สำเร็จที่เกิดขึ้นนี้ เกิดจากการที่ทุกคนในองค์กรให้ความร่วมมือร่วมใจในทุกด้านเพื่อการประกอบ กิจการให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและดําเนินการต่างๆ จนกลายเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมองค์กร “มุ่งมั่นอุตสาหกรรมสีเขียว....เพื่อการพัฒนาอย่างสมดุลและอย่างยั่งยืน” ทั้งนี้หากมองในเชิง ธุรกิจนั้น ยอมรับว่า ปัจจุบันตลาดหันมาให้ความสนใจในเรื่องของการอนุรักษ์ ทรัพยากรธรรมชาติ และการเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ซึ่งพบว่า ผลิตภัณฑ์ ในท้องตลาดที่มีเครื่องหมายที่เกี่ยว กับการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมจะได้รับ การตอบรับเป็นอย่างดี ดังนั้น เพื่อตอบสนองความต้องการของ ตลาดผู้บริโภคทั้งในและต่างประเทศ บริษัทฯ มีการปรับตัวให้สามารถดําเนินกิจการควบคู่ไปกับ การอนุรักษ์ธรรมชาติเพื่อเป็นการ ส่งเสริมอุตสาหกรรมอย่างยั่งยืนตลอดไป...